วันอังคารที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

จัดการการไม่ยอมรับในธุรกิจเครือข่าย

การไม่ยอมรับในธุรกิจขายตรงนั้นเป็นเรื่องที่นักธุรกิจMLMทุกท่านต้องพบ นักขายผู้ที่มีความชำนาญหรือนักธุรกิจ MLM ที่ไปถึงเป้าหมายทราบว่า แนวทางการขายยังไม่ได้เกิดขึ้นจริงๆจนกระทั่งลูกค้าจะตอบไม่ยอมรับ นั้นแปลว่ายังไง…
แนวทางการขายยังมิได้เกิดขึ้นจริงจนกระทั่งลูกค้าจะตอบปฏิเสธนั่นนับว่า ถ้าคุณสร้างสื่อชมรมหรือเป้าหมายความว่าคุณกับลูกค้าได้ดีมากแล้วลูกค้าก็จะจับจ่ายซื้อของคุณโดยง่ายแทบจะไม่มีคำพูดปฏิเสธไปได้เลย แต่ว่าถ้าหากลูกค้าเริ่มโต้แย้งและก็ปฏิเสธ คุณก็จะงัดความสามารถสำหรับการขายสินค้าคุณออกมาใช้ได้จริงๆโน่นเป็น คุณจำเป็นต้องก้าวผ่านคำปฏิเสธนี้ไปให้ได้ แล้วนำคนที่คุณมุ่งมาดมาอยู่ในที่พร้อมจะซื้อ แล้วคุณก็ปิดแนวทางการขาย
ในการถูกไม่ยอมรับทุกทุกคราวนั้นคุณไม่จำเป็นที่ต้องตกอกตกใจ ไม่ต้องเสียหน้า หรือรู้สึกผิดหวังกับคำกล่าวปฏิเสธของลูกค้า ประการแรกคุณจะต้องมีความคิดว่ามันคือเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ทั่วๆไป ด้วยเหตุนี้คุณจะต้องดำรงทีท่ารวมทั้งทัศนคติที่เป็นบวกไว้เสมอ สิ่งที่สร้างความไม่เหมือนระหว่างนักธุรกิจ ขายตรง ที่ประสบผลสำเร็จกับนักธุรกิจ ขายตรง ที่ไม่ประสบความสำเร็จก็คือการรับมือกับการถูกปฏิเสธ

การเช็ดกไม่ยอมรับที่เผชิญได้บ่อยมากในการขายตรง

• ยังไม่ต้องใช้ขณะนี้
• มีเงินไม่เพียงพอ
• ราคาสินค้าสูงเหลือเกิน
• คิดไว้หรือที่ได้ข่าวมาไม่เป็นแบบนี้
• ขอลองคิดดูก่อน
• ขอคุยกับคนภายในครัวเรือนก่อน
• ใช้สอยของแบรนด์อื่นๆอยู่

กลุ่มนี้เป็นประโยคที่ใช้เพื่อการไม่ยอมรับที่เคยรับรู้อยู่เป็นประจำและก็เมื่อคุณได้รับการปฏิเสธแบบอ้อมๆแบบนี้ คุณสามารถหยุดแนวทางการขายกลางคันได้เลย แม้กระนั้นถ้าจะดีกว่านั้นคือเดินหน้าถัดไปด้วยการรักษาค์ทัศนคติแล้วก็ทีท่าที่เป็นบวกเอาไว้ คุณจะต้องชี้แจงให้เห็นจริงว่าสินค้าหรือบริการของคุณเป็นประโยชน์จริงๆอย่างไรกับเขาหรือคุณที่เกินกว่าข้อเสีย และก็การทำเช่นนี้ก็มีโอกาสที่คุณจะสามารถขายสินค้าของคุณได้ แล้วก็คุณสามารถเปลี่ยนแปลงคำกล่าวปฏิเสธของลูกค้ากลายเป็นยอดขายของคุณได้ดังต่อไปนี้

ยังไม่ต้องใช้ตอนนี้
ถ้าคำตอบของลูกค้าคือยังไม่จำเป็นที่จะต้องใช้เวลานี้จริงๆก็อาจไม่มีอะไรจะต้องกล่าวถัดไป แต่คำตอบในใจของลูกค้าก็คือ ไม่จริง แทนที่คุณจะเลือกยอมแพ้กับคำพูดนี้ ให้ลองพินิจพิจารณาว่ามีความสำคัญอะไรแอบซ่อนอยู่ในความคิดของลูกค้า หากว่ามีก็ให้ระบุชัดออกมา เช่น “ผมรู้เรื่องว่าคุณยังอายุไม่มากมายแล้วก็คุณแน่ใจว่าสุขภาพของคุณแข็งแรงดีไม่มีความจำเป็นต้องกินอาหารเสริมอะไรก็แล้วแต่แม้กระนั้นที่สำคัญก็คือ มันจะชะลอความแก่เฒ่าของคุณลงได้ ถ้าเกิดคุณไม่เตรียมพร้อมซื้อตั้งแต่เวลานี้มันจะทำให้ร่างกายของคุณไม่มีภูมิคุ้มกันความเฒ่าอย่างที่ควรจะเป็น ตามเทคโนโลยีในสมัยปัจจุบัน อีกอย่างหนึ่งผมเองก็กินมาประมาณสามเดือนแล้วรู้สึกเช่นเดียวกันกับเป็นวัยรุ่น ก่อนหน้าออกกำลังกายได้เพียงไม่นานก็อ่อนล้าอย่างมากแล้ว แม้กระนั้นเดี๋ยวนี้บริหารร่างกายได้เป็นชั่วโมงๆโดยไม่รู้สึกอ่อนแรงอะไร ไม่มีการปวดกล้าม แล้วหากเป็นคุณที่มีร่างกายแข็งแรงและจะช่วยให้สุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงขึ้น แถมยังย่นระยะเวลาสำหรับการดูแลสุขภาพรวมทั้งออกกำลังกายได้อีกด้วย”

มีเงินไม่พอ
หากลูกค้ายิ่งมีเงินไม่เพียงพอจริงๆก็คือเรื่องธรรดาที่คนจะไม่สามารถที่จะปิดวิธีขายได้ แต่หากคุณมั่นใจว่าเขาหรือคุณสามารถซื้อมันได้คุณก็อาจจะมีคำอธิบายยกตัวอย่างเช่น “มั่นใจว่าคุณอาจจะยังลังเลที่จะลงทุนในระบบการกรองน้ำแบบล้ำสมัยรวมทั้งประหยัดนี้ มันเกิดเรื่องที่เกิดขึ้นได้อะไรๆก็แพงหมดทุกวันนี้ เพราะเหตุไรต้องซื้ออะไรเพิ่มอีกถ้าหากคุณยังซื้อน้ำได้ทีละขวดตามร้านค้าทั่วไป แต่ว่าหากคุณลองนึกดูคุณมีคนในครอบครัวคนจำนวนไม่น้อยแม้ว่าจะซื้อเป็นแพคใหญ่ก็สิ้นเปลืองมากมายเช่นกัน การซื้อน้ำโดยประมาณ 10 แพ็คต่อเดือน คุณสามารถผ่อนจ่ายได้ในราคาที่ถูกกว่าอีกครับ และพอถึงเดือนลำดับที่สี่คุณก็จะมีผลกำไรจากเครื่องนี้แล้ว เมื่อหักลบกับทุนรวมทั้งเปรียบเทียบกับน้ำที่คุณซื้อมาเป็นแพค แถมคุณยังได้น้ำที่มีคุณภาพ อีกด้วยครับผม”

ราคาสินค้าสูงเกินไป
นักธุรกิจMLMมักจะได้ยินคำนี้มากยิ่งกว่าคำตอบอื่นๆแต่ถ้าหากคุณรู้ราคาผลิตภัณฑ์ที่แบบเดียวกันในตลาดคุณจะสามารถที่จะบอกลูกค้าได้ แต่ถ้าเกิดราคาของผลิตภัณฑ์ของคุณสูงกว่าจริงๆคุณก็จะต้องมีเหตุผลที่จะรองรับแล้วก็หักล้างอย่างมีเหตุผล ซึ่งโดยมากแล้วลูกค้าก็รู้ว่าต้องโต้วาทีในเรื่องของประสิทธิภาพที่ดียิ่งกว่า แม้กระนั้นมันดียิ่งกว่าในด้านไหน ลูกค้าจะสามารถยอมรับเหตุผลนั้นได้หรือไม่ ได้แก่ “คนที่ซื้อไปทุกคนตอนแรกก็คิดเช่นเดียวกันนี้ขอรับ มันอาจจะแพงกว่ายี่ห้ออื่นเล็กน้อยแม้กระนั้นผลดีที่พวกเขาได้รับมีมากกว่าหลายเท่า เริ่มต้นที่กรรมวิธีวิจัยและพัฒนาอย่างพิถีพิถัน แนวทางการผลิตที่ได้รับรองมาตรฐานระดับโลก ทำให้มีอายุการใช้แรงงานยาวนานกว่าแบรนด์อื่นๆหลายเท่า”

คิดไว้หรือได้ยินมาไม่เป็นอย่างนี้
เป็นเรื่องที่ท้าเป็นอย่างมากในการที่จะปฏิเสธคำปฏิเสธข้อนี้ โดยเฉพาะถ้าหากคุณไม่มีสิ่งอื่นใดที่เอามาเสนอเพิ่มให้เลือก แต่ว่าจะต้องอย่ายอมแพ้ หายพบว่าผู้ที่คุณคาดหมายกำลังรู้สึกว่าผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณเป็นอย่างไร ให้คุณอุตสาหะมองหาความไม่เหมือนเหล่านั้น อาทิเช่น “ตุ๊กตาตัวนี้ไม่สามารถพูดได้ ก็จริงครับผม แต่ว่าแท้จริงพวกเราทำเอาไว้เช่นนั้นก็เพื่อเด็กๆใช้จินตนาการของตนเองแทนที่จะให้ตุ๊กตาพูดได้ไม่กี่ประโยค แต่ว่าตุ๊กตาตัวนี้ลูกๆของคุณสามารถบันทึกเสียงลงไปแล้วเล่นซ้ำเหมือนกับว่ามันบอกได้ด้วยเหมือนกันขอรับ”

ขอลองคิดดูก่อน
คุณต้องหาว่าทำไมคนที่คุณมุ่งมาดก็เลยอยากได้เวลาเพิ่มขึ้นสำหรับในการคิดทบทวน ถ้าเกิดเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลคุณก็ควรจะปลดปล่อยให้เป็นไปตามครรลองแล้วนัดแนะวันที่ใหม่เพื่อรอคำตอบ แต่ถ้าคุณมั่นใจว่าเป็นการบอกปฏิเสธคราวไม่น่าจะเป็นจริงก็ให้ท่านย้ำคุณประโยชน์ต่างๆที่ได้รับจากสินค้าอีกครั้งหนึ่ง เป็นต้นว่า “ช่วงนี้เป็นช่วงลดพิเศษของพวกเราครับ ธรรมดาราคาแพงกว่านี้ 200 บาท แม้กระนั้นด้วยเหตุว่าเป็นช่วงๆเทศกาลบริษัทจึงมีนโยบายที่จะเชิญให้ลูกค้าซื้อสินค้ากันจำนวนมากและก็ยังมีคูปองแถมให้อีกครับ คุณจะได้ลดอีก 20% กับผลิตภัณฑ์ที่มีโลโก้ของพวกเราตลอดระยะเวลาหนึ่งปีและก็ 10% ของสินค้าที่มีโลโก้แบบอื่นในร้านค้าของพวกเราครับผม”

ขอคุยกับคนภายในครอบครัวก่อน
คำนี้มักเป็นคำพูดปฏิเสธที่ไม่ค่อยตรงตามจริงสักเท่าไหร่ แนวทางการตอบการโต้เถียงนี้ก็ยังพอมีกระบวนการทำได้ดังนี้ “ผมเข้าใจว่าคุณอาจต้องสนทนากับคนภายในครอบครัวก่อน แม้กระนั้นคุณก็สามารถที่จะยกเลิกการสมัครได้ในวันที่ชำระเงิน ด้วยเหตุนี้คุณสามารถฉวยโอกาสนี้สมัครไว้ก่อนเพื่อจะได้สิทธิพิเศษต่างๆที่ผมได้อธิบายไว้แล้วขอรับ”

ใช้แบรนด์อื่นอยู่
กระทั่งลูกค้าที่ซื่อสัตย์สุจริตต่อสินค้าของคุณก็อาจจะกลับใจไปใช้แบรนด์อื่นได้เมื่อมีคำแนะนำที่ดีมากยิ่งกว่า วิธีการที่ดีเยี่ยมที่สุดที่จะพิสูจน์ว่าจะเป็นสิ่งที่ได้เปรียบแม้เปลี่ยนแปลงยี่ห้อในขณะนี้ คุณสามารถเน้นย้ำไปว่ามันจะเป็นอะไร เช่น คุณสมบัติ ราคา อายุการใช้งาน การใช้แรงงานที่ง่าย และอื่นๆที่ทำให้ผลิตภัณฑ์ของคุณเหนือกว่าผลิตภัณฑ์ของลูกค้ากำลังใช้อยู่ ดังเช่น “ผมรู้จักดีกับแบรนด์ที่คุณกำลังใช้อยู่นี้นะครับแล้วก็รู้ดีว่าคุณรู้จักกับมันมากทีเดียว แม้กระนั้นผลิตภัณฑ์ของเรามีส่วนผสมที่ไม่เหมือนกับยี่ห้ออื่นและไม่มีแบรนด์ไหนทำเป็น แต่ละส่วนถูกคัดมาเป็นอย่างดีแล้วก็รักษาได้นาน”

เหล่านี้คือการจัดการกับการไม่ยอมรับของลูกค้าเกี่ยวกับสินค้าของนักธุรกิจขายตรง ชอบมีการกระทำอยู่แล้วสำหรับผลิตภัณฑ์ชนิดต่างๆที่มีอยู่คุณสามารถนำมาใช้ได้ด้วยเหมือนกัน ด้วยเหตุนั้นขอให้คุณวิจัยว่ามีการปฏิเสธแล้วก็การแย้งแบบใดบ้าง แล้วก็คุณจะสามารถรับมือมันได้อย่างไร เท่านี้คุณก็จะเป็นนักธุรกิจขายตรงที่มีโอกาสประสบความสำเร็จมากยิ่งกว่านักธุรกิจMLMที่ไม่อาจจะจัดการกับการถูกไม่ยอมรับได้



เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : http://www.mlmeazy.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น